แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ 15 มกราคม 2566
การบังคับใช้
ข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลหมายถึงข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวตนบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ เลขประจำตัวประชาชน เลขบัตรประกันสังคม เลขประจำตัวผู้เสียภาษี ที่อยู่อีเมล (Email-Address) IP Address, Cookie ID, Log File เป็นต้น แต่อย่างไรก็ดีข้อมูลดังต่อไปนี้ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลการติดต่อทางธุรกิจที่ไม่มีการระบุถึงตัวบุคคล ชื่อบริษัท ที่อยู่ของบริษัท เลขทะเบียนนิติบุคคล หมายเลขโทรศัพท์ที่ทำงาน ที่อยู่อีเมลที่ใช้ในการทำงาน หรือที่อยู่อีเมล์ของกลุ่มบริษัท ข้อมูลนิรนาม หรือข้อมูลแฝงที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และ/หรือข้อมูลผู้ถึงแก่กรรม เป็นต้น
ทั้งนี้ ต่อไปในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หากไม่มีการกล่าวโดยเฉพาะเจาะจงจะเรียก “ข้อมูลส่วนบุคคล” และ “ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน” ที่เกี่ยวกับผู้ใช้บริการข้างต้นให้รวมกันเรียกว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”
ในกรณีที่บริษัทได้รับสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ใช้บริการ เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตัวตนในการก่อนิติสัมพันธ์ทางกฎหมาย และ/หรือการทำธุรกรรมใด ๆ กับบริษัท บริษัทไม่มีนโยบายการเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน (Sensitive Data) อาทิ ข้อมูลศาสนา ยกเว้นในกรณีที่บริษัทได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการ ทั้งนี้บริษัทจะกำหนดวิธีการจัดการตามแนวทางปฏิบัติและเป็นไปตามที่กฎหมายอนุญาต
บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลของผู้ใช้บริการต่อเมื่อ
- ผู้ใช้บริการได้เข้าถึงและ/หรือใช้บริการบนแพลตฟอร์มของบริษัท หรือลงทะเบียน และ/หรือสมัครบัญชีสำหรับใช้บริการกับบริษัท
- เมื่อผู้ใช้บริการส่งแบบฟอร์ม หรือสมัครใช้บริการใดๆบนแพลต์ฟอร์มของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นทางออนไลน์หรือรูปแบบเอกสาร
- เมื่อผู้ใช้บริการทำข้อตกลงใด ๆ หรือผู้ใช้บริการให้ข้อมูลสำหรับติดต่อระหว่างผู้ใช้บริการกับบริษัท
- เมื่อผู้ใช้บริการทำการเติมเงินด้วยช่องทางการชำระเงินของทางบริษัท
- เมื่อผู้ใช้บริการทำการซื้อสินค้าและ/หรือบริการ บนแพลตฟอร์มของบริษัท
- เมื่อผู้ใช้บริการได้อนุญาตให้บริษัทเข้าถึงบัญชีโซเชี่ยลมีเดียของผู้ใช้บริการ หรือผู้ใช้บริการทำการเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีโซเชี่ยลมีเดีย ภายใต้ข้อกำหนดของแพลตฟอร์มโซเชี่ยลมีเดีย
บริษัทจะเก็บข้อมูลใดไว้บ้าง
- ข้อมูลส่วนบุคคลพื้นฐาน
คำนำหน้า ชื่อ นามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด อายุ เลขที่ประจำตัวประชาชน ที่อยู่ปัจจุบัน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ - ข้อมูลการติดต่อ
เช่น บัญชีผู้ใช้งาน ประวัติการใช้งาน เป็นต้น - หลักฐานแสดงตัวตน
เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง เป็นต้น - ข้อมูลการทำธุรกรรมและการเงิน
เช่น ประวัติการสั่งซื้อ รายละเอียดบัตรเครดิต บัญชีธนาคาร เป็นต้น - ข้อมูลทางเทคนิค
เช่น IP address, Cookie ID, ประวัติการใช้งานเว็บไซต์ (Activity Log) เป็นต้น - ข้อมูลอื่น ๆ
– ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล
– ชื่อบัญชีโซเชียลมีเดีย (Facebook, Line)
– ชื่อบัญชี Google Account
– ข้อมูลผู้ใช้งานบนโซเชียลมีเดียอื่น ๆ
– ข้อมูลผู้ใช้งานที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน
– ข้อมูลทางการเงิน เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร บัญชีธนาคาร หน้าเล่มสมุดบัญชีธนาคาร
– ข้อมูลการติดต่อกับบริษัท เช่น ข้อมูลภาพหรือเสียงเมื่อผู้ใช้บริการมีการติดต่อกับบริษัท ข้อความแชทบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ทางบริษัทเปิดให้บริการ - ผู้ใช้บริการตกลงที่จะไม่ส่งมอบข้อมูลใด ๆ ที่ไม่ถูกต้อง หรือข้อมูลที่ถูกดัดแปลงที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดให้แก่บริษัท และผู้ใช้บริการจะแจ้งให้บริษัททราบถึงความไม่ถูกต้องหรือการเปลี่ยนแปลงข้อมูลนั้น บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะขอให้ผู้ใช้บริการส่งมอบเอกสารข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อใช้สำหรับการยืนยันข้อมูลที่ผู้ใช้บริการได้ให้ไว้ ตามที่บริษัทเห็นสมควร
- หากผู้ใช้บริการต้องการให้บริษัทลบข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ สามารถแจ้งการขอลบข้อมูลให้เป็นลายลักษณ์อักษรผ่านช่องทางการติดต่อของบริษัท
ผู้เยาว์
วิธีการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
- เพื่อสร้างและจัดการบัญชีผู้ใช้งาน
- เพื่อจัดส่งสินค้าหรือบริการ
- เพื่อปรับปรุงสินค้า บริการ หรือประสบการณ์การใช้งาน
- เพื่อการบริหารจัดการภายในบริษัท
- เพื่อการตลาดและการส่งเสริมการขาย
- เพื่อการบริการหลังการขาย
- เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะ
- เพื่อชำระค่าสินค้าหรือบริการ
- เพื่อปฏิบัติตามข้อตกลงและเงื่อนไข (Terms and Conditions)
- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบของหน่วยงานราชการ
แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทดำเนินการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้บริการ ผ่านกระบวนการ ดังนี้
- ข้อมูลที่ให้กับบริษัทโดยตรง เช่น ข้อมูลที่ปรากฏในการสมัครใช้บริการ รวมถึงเอกสารประกอบต่าง ๆ คำขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลอื่น คำขอใช้บริการหรือคำขอข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท ข้อมูลการร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ ข้อมูลที่ใช้สมัครลงทะเบียนสร้างบัญชีการใช้งานหรือโปรไฟล์ กับบริษัทเพื่อใช้บริการของบริษัททั้งทางช่องทางออฟไลน์และช่องทางออนไลน์ ข้อมูลที่ผู้ใช้บริการติดต่อกับบริษัทไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารในรูปแบบหนังสือหรืออิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนข้อมูลที่ผู้ใช้บริการให้กับบริษัทผ่านการทำแบบสำรวจ การให้ข้อเสนอแนะหรือข้อคิดเห็นผ่านช่องทาง ต่าง ๆ การติดต่อผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของทางบริษัท เป็นต้น
- ข้อมูลที่บริษัทจัดเก็บอัตโนมัติ เมื่อผู้ใช้บริการเข้าใช้บริการผ่านระบบของบริษัทหรือเข้าชมเว็บไซต์ของบริษัทผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ คอมพิวเตอร์ แล็บท็อป เป็นต้น ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า “คุกกี้” หรือ เทคโนโลยีอื่นที่มีลักษณะการทำงานเหมือนหรือคล้ายกัน
- ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลภายนอก หรือข้อมูลสาธารณะที่เชื่อถือได้ เช่น กรมการปกครอง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า แหล่งข้อมูลเชิงพาณิชย์ เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน แหล่งข้อมูลสื่อสังคมออนไลน์ ผู้ให้บริการข้อมูล หน่วยงานหรือบริษัทหรือสมาคมหรือสมาพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของผู้ใช้บริการ เป็นต้น
- ข้อมูลที่ผู้ใช้บริการติดต่อกับบริษัท พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน คู่ค้าหรือพันธมิตรของบริษัท ผู้รับมอบอำนาจหรือผู้กระทำการแทน หรือบุคคลอื่นหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือได้รับมอบหมายจากบริษัทผ่านทางช่องทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน สื่อสังคมออนไลน์ โทรศัพท์ อีเมล การประชุม การสัมภาษณ์ ข้อความสั้น (SMS) หรือโดยวิธีการอื่นใด
- ข้อมูลที่ผู้ใช้บริการร่วมทำกิจกรรมกับบริษัท ในส่วนของกิจกรรมทางการตลาด การประกวด การจับฉลากชิงโชค หรืองานต่าง ๆ ที่จัดขึ้นโดยบริษัทและ/หรือคู่ค้าหรือพันธมิตรที่ร่วมทำกิจกรรมกับบริษัท หรือบริษัทมอบหมายหรืออนุญาตให้ทำกิจกรรมดังกล่าว เมื่อผู้ใช้บริการตกลงและยินยอมให้ข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอกแก่บริษัท ซึ่งบุคคลภายนอกดังกล่าว รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าผู้ใช้บริการ ไม่ว่าทางธุรกิจหรือทางอื่นใด เช่น สมาชิกในครอบครัว เป็นต้น ผู้ใช้บริการรับรองและรับประกันความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และผู้ใช้บริการรับรองและรับประกันว่าผู้ใช้บริการได้แจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบอย่างครบถ้วนแล้วเกี่ยวกับประกาศความเป็นส่วนตัวนี้
วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะดำเนินการจัดเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ภายใต้ที่กฏหมายได้มีการกำหนดไว้ ตามวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
- เพื่อใช้ในการดำเนินการยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการว่ามีตัวตนอยู่จริง และเพื่อเปิดการใช้งานบริการของทางบริษัท
- เพื่อใช้ในการติดต่อกับผู้ใช้บริการในกรณีที่เกิดความผิดพลาดเกิดขึ้น
- เพื่อวัตถุประสงค์ในการรับข่าวสาร หรือข้อมูล เพื่อส่งเสริมทางการตลาดและการส่งเสริมการขาย หรือเสนอข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์, สินค้า, และบริการอื่น ๆ
- เพื่อการป้องกันอาชญากรรมและการฉ้อโกง รวมถึงการรักษาความปลอดภัยของระบบและเครือข่าย เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
การเก็บรวบรวมข้อมูลอื่น ๆ
- ในการเข้าถึงแพลตฟอร์มของบริษัท บริษัทจะมีการจัดเก็บที่อยู่ IP ของอุปกรณ์ (Internet Protocol/IP) เพื่อช่วยให้แพลตฟอร์มช่วยจดจำการเข้าสู่ระบบของผู้ใช้บริการในครั้งล่าสุดได้ และข้อมูลนี้จะถูกนำไปใช้ในเชิงสถิติที่ไม่ระบุตัวตนเพื่อช่วยให้บริษัทพัฒนาการให้บริการแก่ผู้ใช้บริการต่อไป
- ข้อมูลตำแหน่งของผู้ใช้บริการโดยประมาณ โดยการใช้ ที่อยู่ IP ของผู้ใช้บริการในการประเมินที่อยู่โดยประมาณของผู้ใช้บริการ เพื่อช่วยในการระบุสถานที่ที่ผู้ใช้บริการได้ทำการเข้าสู่ระบบครั้งล่าสุด
บริษัทคุ้มครองและเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลอย่างไรบ้าง
- บริษัทมีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไว้ภายใต้มาตรการความปลอดภัยต่าง ๆ ด้วยความพยายามอย่างดีที่สุด เพื่อให้ผู้ใช้บริการมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการที่อยู่บนระบบของบริษัทมีความปลอดภัย ข้อมูลส่วนบุคคลจะมีการเก็บไว้บนเครือข่ายที่มีความปลอดภัย และสามารถเข้าถึงได้เพียงพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องเท่านั้น ซึ่งจะเป็นบุคคลที่มีสิทธิพิเศษในการเข้าถึงระบบดังกล่าว อย่างไรก็ตามบริษัทไม่สามารถประกันความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการได้อย่างสมบูรณ์
บริษัทเปิดเผยข้อมูลแก่บุคคลภายนอกหรือไม่
- บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก เว้นแต่เป็นหน่วยงานที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัท หรือบริษัทอื่นในกลุ่มของบริษัท
- บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อผู้ใช้บริการต่อบุคคลภายนอก ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือยินยอมให้บุคคลภายนอกสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการโดยไม่ได้รับความยินยอมจากบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน
- บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมหรือที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ โดยมีการบริหารจัดการภายในองค์กร
- บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการภายในบริษัทเท่าที่จำเป็นเพื่อปรับปรุงและพัฒนาสินค้าหรือบริการ บริษัทอาจรวบรวมข้อมูลภายในสำหรับสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ภายใต้นโยบายนี้เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการและผู้อื่นมากขึ้น
ระยะเวลาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- สิทธิขอถอนความยินยอม (right to withdraw consent) หากผู้ใช้บริการได้ให้ความยินยอม บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ได้ให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น ผู้ใช้บริการมีสิทธิถอนความยินยอมได้ตลอดเวลา
- สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล (right to access) ผู้ใช้บริการมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทและขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ผู้ใช้บริการ รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยว่าได้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการมาได้อย่างไร
- สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล (right to data portability) ผู้ใช้บริการมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่บริษัทได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
- สิทธิขอคัดค้าน (right to object) ผู้ใช้บริการมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่บริษัทสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผลหรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์
- สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล (right to erasure/destruction) ผู้ใช้บริการมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ หากเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือเห็นว่าบริษัทหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
- สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล (right to restriction of processing) ผู้ใช้บริการมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของผู้ใช้บริการหรือกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ผู้ใช้บริการขอให้บริษัทระงับการใช้แทน
- สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล (right to rectification) ผู้ใช้บริการมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
- สิทธิร้องเรียน (right to lodge a complaint) ผู้ใช้บริการมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากผู้ใช้บริการเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ผู้ใช้บริการสามารถใช้สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นได้ โดยติดต่อมาที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทตามรายละเอียดท้ายนโยบายนี้ บริษัทจะแจ้งผลการดำเนินการภายในระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทได้รับคำขอใช้สิทธิจากคุณ ตามแบบฟอร์มหรือวิธีการที่บริษัทกำหนด ทั้งนี้ หากบริษัทปฏิเสธคำขอบริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ทราบผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น
การโฆษณาและการตลาด
บริษัทอาจส่งข้อมูลหรือจดหมายข่าวไปยังอีเมลของคุณ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอสิ่งที่น่าสนใจ หากผู้ใช้บริการไม่ต้องการรับการติดต่อสื่อสารจากบริษัทผ่านทางอีเมลอีกต่อไป สามารถกด “ยกเลิกการติดต่อ” ในลิงค์อีเมลหรือติดต่อมายังอีเมลของบริษัทได้