จุดเด่นของเกม Valorant ที่ทำให้เกมนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก
จุดเด่นของเกม Valorant ที่ทำให้เป็นที่นิยมและแตกต่างจากเกม FPS อื่น ๆ มีดังนี้
1. ตัวละคร (Agents) ที่มีเอกลักษณ์
- แต่ละตัวละครมี สกิลพิเศษ ที่ไม่เหมือนกัน เช่น การสร้างกำแพง การลอบเร้น หรือการใช้สกิลโจมตีหนัก ๆ
- การเลือกตัวละครที่เหมาะสมกับสถานการณ์และทีมเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์
2. การผสมผสานระหว่างความแม่นยำและกลยุทธ์
เกมไม่ได้เน้นเพียงแค่การยิงแม่นเท่านั้น แต่ยังต้องใช้ แผนและการทำงานเป็นทีม ในการชนะ เช่น การใช้สกิลเพื่อปิดวิสัยทัศน์ของศัตรู หรือการแบ่งพื้นที่ในแมพ
3. สมดุลระหว่างสกิลและการยิง (Gunplay)
แม้ตัวละครจะมีสกิลพิเศษ แต่การยิงด้วยอาวุธยังคงเป็นปัจจัยหลักในการชนะ ทำให้เกมไม่เสียสมดุล
4. ระบบแมพ (Maps) ที่ออกแบบมาอย่างดี
- แมพในเกมถูกออกแบบให้มีเส้นทางที่หลากหลาย ทำให้เกิดการปะทะในจุดที่คาดไม่ถึงและใช้กลยุทธ์ได้หลากหลาย
- ตัวแมพยังมีเอกลักษณ์ เช่น มีประตูหมุน (Bind), เชือกเคลื่อนที่ (Split) หรือแมพที่มีสามไซต์ (Haven)
5. กราฟิกที่เป็นมิตรกับทุกเครื่อง
การออกแบบกราฟิกเรียบง่ายแต่สวยงาม ทำให้เล่นได้ลื่นไหลแม้ในคอมพิวเตอร์ที่สเปกไม่สูง
6. การแข่งขันแบบ E-Sport ระดับโลก
- มีทัวร์นาเมนต์อย่าง Valorant Champions Tour (VCT) ซึ่งรวบรวมทีมจากทั่วโลกมาประลองฝีมือ
- สร้างแรงจูงใจให้ผู้เล่นที่อยากพัฒนาตนเองในสายอาชีพเกม
7. การอัปเดตที่ต่อเนื่อง
- มีการเพิ่มตัวละคร, แมพ, และโหมดเกมใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ ทำให้เกมไม่จำเจ
- Riot Games ยังใส่ใจปรับสมดุลของเกมและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว
รูปแบบการเล่น Valorant สุดยอดเกมยิงที่ต้องใช้ทั้งฝีมือและกลยุทธ์
Valorant เป็นเกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (FPS) ที่เน้นการเล่นเป็นทีมแบบ 5v5 โดยมีเป้าหมายหลักคือการป้องกันหรือโจมตีจุดวางระเบิด (Spike) ซึ่งเกมจะแบ่งออกเป็นสองทีม คือ ทีมโจร (Attackers) และทีมป้องกัน (Defenders)
โหมดการเล่นหลักๆ
- โหมดแข่งขัน (Competitive): โหมดนี้เน้นการแข่งขันที่จริงจัง ผู้เล่นจะต้องผ่านการจัดอันดับเพื่อเข้าเล่น และจะได้รับคะแนนตามผลการแข่งขัน
- โหมดไม่จัดอันดับ (Unrated): โหมดนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกฝนหรือเล่นเพื่อความสนุกสนาน ไม่มีการนับคะแนนหรือจัดอันดับ
- โหมดอื่นๆ: นอกจากนี้ยังมีโหมดการเล่นอื่นๆ อีก เช่น Deathmatch (ฆ่าให้ได้มากที่สุด), Spike Rush (โหมดเล่นเร็ว), และอื่นๆ
รอบการแข่งขัน
- 13 รอบ: แต่ละเกมจะมีทั้งหมด 13 รอบ โดยทีมที่ชนะ 13 รอบก่อนจะเป็นผู้ชนะ
- สลับบทบาท: ในแต่ละรอบ ทีมจะสลับบทบาทกันระหว่างทีมโจรและทีมป้องกัน
เอเจนต์ (Agents)
- ตัวละครที่มีความสามารถพิเศษ: แต่ละผู้เล่นจะเลือกตัวละครที่เรียกว่า “เอเจนต์” ซึ่งจะมีความสามารถพิเศษที่แตกต่างกันไป เช่น การสร้างกำแพง, การชะลอความเร็วของศัตรู, หรือการใช้พลังงานในการโจมตี
- บทบาท: เอเจนต์จะแบ่งออกเป็น 4 บทบาทหลักๆ ได้แก่ Duelist, Controller, Initiator และ Sentinel แต่ละบทบาทจะมีหน้าที่และความสามารถที่แตกต่างกันออกไป
วัตถุประสงค์ของเกม
- ทีมโจร: ต้องวางระเบิด Spike และป้องกันไม่ให้ทีมป้องกันกอบกู้ระเบิด
- ทีมป้องกัน: ต้องป้องกันไม่ให้ทีมโจรวางระเบิด หรือหากวางระเบิดแล้วต้องกอบกู้ระเบิดให้ได้
สิ่งที่ทำให้ Valorant แตกต่าง
- ความสามารถเฉพาะตัวของเอเจนต์: ทำให้เกมมีความหลากหลายและต้องใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละรอบ
- แผนที่ที่ออกแบบมาอย่างดี: แต่ละแผนที่มีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกัน ทำให้ผู้เล่นต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม
- ระบบการแข่งขันที่สมดุล: ทำให้ผู้เล่นทุกระดับสามารถเข้ามาเล่นและสนุกไปกับเกมได้
- กราฟิกและเสียงที่สวยงาม: ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนได้อยู่ในสนามรบจริง ๆ